Generative AI หมายถึง เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (deep learning) ที่สามารถสร้าง (generate) ข้อมูลใหม่โดยอัตโนมัติจากการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่แล้ว โดยทั่วไปแล้ว Generative AI จะใช้ Neural Network โดยเฉพาะ Generative Adversarial Networks (GANs) และ Variational Autoencoder (VAE) เพื่อสร้างภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลที่เป็นตัวอักษรที่มีความสมจริงเหมือนจริง ซึ่ง Generative AI สามารถนำไปใช้ในหลายองค์กรและสาขาวิชาต่างๆ เช่น ภาพยนตร์และสื่อบันเทิง เกมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการแต่งภาพ การพยากรณ์ธุรกรรม และอื่นๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับข้อมูลการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติ
Generative AI เป็นส่วนหนึ่งของ AI (Artificial Intelligence) โดย AI หมายถึง เทคโนโลยีที่อ้างอิงถึงความสามารถในการจำลองและจัดการกับงานของมนุษย์ ซึ่ง AI สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial General Intelligence – AGI) ที่สามารถจัดการกับงานใดก็ได้ในระดับของมนุษย์ ปัญญาประดิษฐ์แบบแข่งขัน (Artificial Narrow Intelligence – ANI) ที่เฉพาะกับการจัดการกับงานในฟิลด์หนึ่งๆ เช่น การแยกแยะภาพ, การพูดคุยอัตโนมัติ, การทำนายผลการเลือกตัวเลือก ส่วน Generative AI จะเน้นไปที่ความสามารถในการสร้าง (generate) ข้อมูลใหม่ โดยมีวิธีการทำงานคือการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่แล้วเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นตัวอย่างของข้อมูลใหม่ โดยการสร้างนี้สามารถทำได้ในหลายรูปแบบ เช่น การสร้างภาพ, วิดีโอ, ตัวเลข, หรือประโยค ดังนั้น Generative AI เป็นส่วนย่อยของ AI ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูล โดยมีความพิเศษที่สามารถสร้างข้อมูลใหม่ได้อย่างมีความสมจริงและเป็นไปได้มากขึ้นในขณะที่ AI ทั่วไปสามารถดำเนินการจัดการกับงานที่ได้รับมอบหมายไว้เท่านั้น ตัวอย่างของ Generative AI ที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันได้แก่:
-
GPT (Generative Pre-trained Transformer) – เป็นโมเดล AI ที่สามารถสร้างข้อความเชิงภาษาธรรมชาติได้โดยทำการเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมหาศาลในเว็บไซต์
-
DALL-E – เป็นโมเดล AI ที่สร้างภาพจากคำอธิบายในภาษาธรรมชาติ เช่น “รูปแตงกวาสีชมพูสีครีมสีน้ำตาล” โดยมีการเรียนรู้จากข้อมูลในเว็บไซต์
-
StyleGAN – เป็นโมเดล AI ที่สร้างภาพสังเคราะห์โดยใช้สไตล์ (style) ของภาพจริง ซึ่งสามารถใช้สร้างภาพบุคคลหรือสิ่งของที่ไม่มีอยู่ในโลกจริง
-
MuseNet – เป็นโมเดล AI ที่สร้างเสียงเชิงดนตรีที่เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ โดยสามารถสร้างเพลงในหลายแนวเพลงได้
-
DeepDream – เป็นโมเดล AI ที่สร้างภาพสังเคราะห์โดยใช้การเข้ารหัส (encoding) จากภาพจริง ซึ่งสามารถสร้างภาพที่มีลักษณะภาพจริงแต่เป็นโมเดลได้
มีการประยุกต์ Generative AI ในภาคธุรกิจอย่างกว้างขวาง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุนการผลิต ดังนี้
-
การออกแบบผลิตภัณฑ์ – Generative AI สามารถช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลและการเรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่เพื่อสร้างโมเดลสำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์ เช่น การออกแบบสินค้าที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มลูกค้า
-
การสร้างเนื้อหา – Generative AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและมีเนื้อหาที่เป็นไปได้ต่างๆ เช่น การสร้างเนื้อหาสำหรับโฆษณาและการตลาด และสร้างบทความในเว็บไซต์
-
การตัดสินใจ – Generative AI สามารถช่วยในการตัดสินใจโดยการวิเคราะห์ข้อมูลและทำนายผลลัพธ์ เช่น การทำนายการสั่งซื้อสินค้า การพยากรณ์สภาพอากาศ เป็นต้น
-
การสร้างเกม – Generative AI สามารถช่วยในการสร้างเกมโดยอัตโนมัติ เช่น การสร้างระบบ AI สำหรับเกม RPG ที่สามารถสร้างตัวละครสำหรับผู้เล่นเองโดยอัตโนมัติ
อนาคตของ Generative AI มีความมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานและการใช้ชีวิตของเราได้อย่างมากมาย และยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น