Google Bard คืออะไร ?
Google Bard เป็น Chatbot ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Google และเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ครับ มีข่าวกระแสว่า Google พัฒนาระบบนี้เพื่อแข่งขันกับ ChatGPT แต่จริงๆ แล้ว ทั้งสองโปรแกรมนี้มีกระบวนการควบคุมที่แตกต่างกัน โดย Google Bard ใช้โมเดลที่ชื่อ LaMDA ในการดำเนินการ ในขณะเดียวกัน ChatGPT เวอร์ชันฟรีใช้โมเดล GPT 3.5 ครับ
ในแง่ธุรกิจ, จะได้รับการแข่งขันจริงๆ หรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานที่เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้โปรแกรมไหน AI Chatbot จากที่มาซึ่งโปรแกรมใหม่ล่าสุดนี้เพิ่งเกิดขึ้นในวงการ AI Chatbot ไม่นานมานี้และมีการประชาสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย เช่น Google Bard
รู้จักกับน้องใหม่ในวงการ AI Chatbot กับ Google Bard
Google Bard AI เป็นชื่อย่อที่ใช้เรียก AI น้องใหม่ในวงการที่เรียกว่า “Bard” ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 และได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่เพิ่มเติมในเดือนมีนาคม 2566 Bard เป็น AI Chatbot ที่พัฒนาขึ้นโดยพี่ใหญ่ของมันคือ Google ในการเปิดตัวครั้งแรก Bard ได้มีปัญหาในการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Google อย่างมาก ดังนั้นเกิดเหตุการณ์นี้เป็นเหตุผลในการมีการอัปเดตครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม
Bard AI ได้ขยายการเรียนรู้ไปสู่ภาษาอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากภาษาอังกฤษในประเทศไทยเอง คนไทยสามารถใช้ภาษาไทยสนทนากับ Bard ได้ทั้งผ่านแชทและการสนทนาด้วยเสียงพูด ที่สำคัญทาง Google ยังประกาศว่าจะขยายการรองรับให้รองรับภาษาอีก 40 ภาษาที่ได้รับความนิยมและอีก 180 ภาษาทั่วโลก
ประโยชน์ของ Google Bard
ตั้งแต่เริ่มต้นของ Bard Google และตลอดการพัฒนาและการเปิดตัว เราได้มีการอัปเดตเพื่อขยายความรู้และความสามารถให้มากขึ้น ตั้งแต่ความสามารถในเรื่องเล็กๆ เช่นการให้ข้อมูลอย่างระมัดระวัง และการตอบคำถามที่ผู้ใช้มักจะถามอย่างไม่ธรรมดา เพื่อสร้างความสนุกสนาน ไปจนถึงเรื่องที่ใช้ความสามารถมากขึ้น Bard จึงสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดี
- สามารถช่วยทำงานผ่าน Google Workspace
ดังที่ได้กล่าวไปว่า ตั้งแต่เปิดตัว Bard มา โปรแกรมนี้ก็ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง โดยล่าสุดในเดือนพฤษภาคม 2566 Bard AI ได้รับการอัปเดตอีกรอบ โดยครั้งนี้เพิ่มการเรียนรู้ให้ Bard สามารถช่วยคุณค้นหาข้อมูล, ทำงานวิจัย, คิดค้นไอเดียใหม่ ๆ, และมีระบบช่วยบริหารจัดการธุรกิจ โดยผู้ใช้งานสามารถ Login ผ่านบัญชี Google Workspace ได้ - สามารถแชร์เนื้อหาไปยัง Google Docs และ Gmail
หลังจากการอัปเดตใหม่ Bard ก็เพิ่มการเรียนรู้ใหม่อีกครั้ง นับได้เพียง 5 วันหลังจากการเรียนรู้การทำงานผ่าน Google Workspace โดยตัวเลือกใหม่นี้ช่วยให้คุณสามารถส่งออก หรือแชร์เนื้อหาที่ให้ Bard ช่วยค้นหาไปยัง Gmail และ Google Docs ได้ นอกจากนี้ Bard ยังเข้าถึง Google Map, Google Drive, Google Sheets, Google Slides, Google Meet และสามารถทำงานร่วมกับ Google Search ได้ด้วย - สามารถตอบกลับคำถามด้วยรูปภาพได้
นักออกแบบและพัฒนาโปรแกรมของ Bard Google ได้เพิ่มการเรียนรู้ให้ Bard สามารถตอบกลับคำถามด้วยรูปภาพได้หากผู้ใช้งานมีความต้องการ หรือหากต้องการให้ Bard แสดงทั้งข้อมูลพร้อมรูปภาพประกอบ ก็ทำได้เช่นกัน - ผู้ใช้งานจะได้ข้อมูลที่สดใหม่อยู่เสมอ
คำถามที่ผู้ใช้งานต้องการให้ Bard ค้นหาคำตอบ จะเป็นข้อมูลที่สดใหม่แบบเรียลไทม์ เนื่องจากตัวโมเดล LaMDA จะทำการตรวจสอบการค้นหา ก่อนจะดึงข้อมูลออกมานำเสนอต่อผู้ใช้งาน จึงสามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่มาจาก Bard จะไม่เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด อีกทั้งสำนวนภาษาที่ใช้อย่างมีความเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับภาษามนุษย์อีกด้วย - ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ได้ดี
Google จับมือกับ Adobe Firefly เพื่อนำ Google Bard AI เข้าไปใส่ไว้ในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างภาพกราฟิกด้วยการบรรยายผ่าน Bard และให้สร้างออกมาเป็นผลงานภาพ สำหรับการนำไปใช้งานตามความต้องการ
เรียนรู้การใช้งาน AI โดยใช้ Google Bard
Google Bard เป็น AI Chatbot ที่มีความสามารถในการสรุปข้อมูลและตอบคำถามที่ซับซ้อน อีกทั้งยังสามารถเข้าใจบริบทของคำถามได้ เพื่อให้สามารถให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงได้ แต่การพัฒนา Bard ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนการค้นหาแบบเดิม แต่เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการทำงานบางส่วนเท่านั้น
ดังนั้น การมีส่วนร่วมกับ AI ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเกรงกลัวตามที่คนหลาย ๆ คนคาดเดา เนื่องจากยังมีด้านหลายด้านที่ AI ไม่สามารถแทนที่เราได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเข้าอยู่กับเราและสังคม สิ่งที่เราควรทำคือที่จะอยู่ร่วมกันและนำเอาประโยชน์จากเทคโนโลยีมาใช้
โดยการใช้งาน Bard อย่างถูกวิธีจะช่วยให้เราเข้าถึงเทคโนโลยีที่มีความชาญฉลาด ก่อนอื่นคุณต้องทราบก่อนว่า Bard สามารถทำงานบน Window 10, Window 11, MacOS, Linux หรือแม้แต่บนระบบของ Android และ iOS ได้ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้งาน Bard บนเบราว์เซอร์ Microsoft Edge หรือ Firefox ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็น Chrome เพียงอย่างเดียว และจากนั้นให้คุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เข้าเว็บไซต์ Bard และ Login ด้วยบัญชี Gmail หรือ Google Workspace ของคุณ จากนั้นให้กดไปที่ Try Bard หรือ Sign In
- เมื่อพบการแจ้งเตือนนโยบาย ให้อ่านและกดยอมรับ I Agree ท้ายนโยบาย
- จากนั้นจะพบกับคำแนะนำสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน ให้กดไปที่ Continue
- เริ่มต้นพูดคุยกับ Google Bard ได้เลย โดยที่คุณไม่ต้องประดิษฐ์คำพูดอะไร เพราะ Bard สามารถเข้าใจภาษาที่เป็นธรรมชาติได้
เราสามารถใช้ Google Bard เพื่อช่วยวิเคราะห์การลงทุนได้หรือไม่
ตอบคำถามที่ว่า เราสามารถใช้ Bard เพื่อวิเคราะห์การลงทุนได้หรือไม่ เราได้ถามคำถามนี้กับ Bard มาให้แล้ว คำตอบที่ได้คือ “ไม่สามารถทำได้” เนื่องจากการวิเคราะห์การลงทุนมีความซับซ้อน และเป็นเทคนิคเฉพาะบุคคล ที่ต้องใช้การวิเคราะห์โดยอ้างอิงจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่ Bard อาจวิเคราะห์ข้อมูลผิดพลาดได้