Deep Learning คืออะไร?
Deep Learning คือวิธีการเรียนรู้แบบอัตโนมัติด้วยการ เลียนแบบการทำงานของโครงข่ายประสาทของมนุษย์ (Neurons) โดยนำระบบโครงข่ายประสาท (Neural Network) มาซ้อนกัน หลายชั้น (Layer) และทำการเรียนรู้ข้อมูลตัวอย่าง ซึ่งข้อมูล ดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการตรวจจับรูปแบบ (Pattern) หรือจัด หมวดหมู่ข้อมูล (Classify the Data)
Deep Learning (DL) : การเรียนรู้เชิงลึก
อัลกอริทึมแบบระบบเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning) ต้องใช้ ‘ โครงข่ายใยประสาทเสมือน’ (Artificial Neural Networks (ANN)) ซึ่งก็เหมือนวิธีการทำงานของระบบประสาทในสมองมนุษย์ โครงข่ายเหล่านี้มี ‘เซลล์ประสาท’ ที่เชื่อมต่อกันเป็น ‘ระบบประสาท’ และสื่อสารกัน โดยใช้วิธีประมวลผลแบบขนาน (parallel processing) เพื่อทำให้มันสามารถเข้าใจและเรียนรู้จากข้อมูลจำนวนมากที่ได้รับอย่างต่อเนื่อง
สมองคนเรามักจะพยายามถอดรหัสข้อมูลที่ได้รับ อีกทั้งมักจะติดป้ายและการกำหนดสิ่งต่างๆ แบ่งแยกเป็นหมวดหมู่ เมื่อใดก็ตามที่เราได้รับข้อมูลใหม่สมองจะพยายามเปรียบเทียบกับสิ่งที่เราได้รู้ก่อนหน้า ก่อนที่จะทำความเข้าใจกับมัน เช่นเดียวกัน DL ก็สามารถถูกสอนให้ทำงานในลักษณะเดียวกันให้สำเร็จได้
ลองมาดูการเปรียบเทียบ Machine Learning vs Deep Learning
ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ DL สามารถค้นพบคุณสมบัติที่จะใช้ในการแบ่งแยกหมวดหมู่โดยอัตโนมัติ แต่ ML จำเป็นต้องได้รับข้อมูลเหล่านี้จากผู้ให้ข้อมูลโดยตรง
นอกจากนี้ DL ยังต้องการเครื่องจักรระดับสูงและชุดข้อมูลจำนวนมาก เพื่อการทำนายผลที่แม่นยำมากขึ้น
ทั้ง 3 เทคโนโลยีนี้จะช่วยในการทำงานของนักวิทยาศาสตร์และนักวิเคราะห์ในการตีความข้อมูลได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสาขาวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science)
ยกตัวอย่างการวิวัฒนาการการทำงานของเจ้า Machine
ในปีแรกโดยขั้นพื้นฐานมันอาจทำความเข้าใจระบบคมนาคม อีกทั้งระบุได้ว่าเส้นทางไหนน่าจะประสบกับปัญหาจราจรติดขัดมากที่สุด ในปีถัดมา มันจะสามารถทำนายการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน และสามารถแจ้งให้ผู้เดินทางรู้ล่วงหน้าได้ว่าควรเปลี่ยนไปใช้เส้นทางไหนแทน ในปีต่อมา มันจะสามารถพัฒนาแผนในอนาคตได้เอง อย่างประเมินการเติบโตของจำนวนประชากร สภาพการจราจร ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเข้ามากระทบ อย่างการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ
cr.https://techsauce.co/tech-and-biz/ai-machine-learning-deep-learning-differences