Blockchain คือระบบฐานข้อมูลแบบกระจายที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับการจัดการธุรกรรมทางการเงินและการโอนเงิน โดยมีคุณสมบัติเป็นระบบแบบ Peer-to-Peer (P2P) ที่ทุกๆ โหนดในระบบสามารถเชื่อมต่อกันและส่งข้อมูลได้โดยตรง โดยทุกๆ ข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน Blockchain จะถูกเข้ารหัสและเก็บไว้ในบล็อกหนึ่งๆ ซึ่งถูกเชื่อมต่อกันเป็นเส้นๆ รวมกันเป็นเชือกๆ จนเป็นเครือข่ายของ Blockchain
สิ่งที่ทำให้ Blockchain น่าสนใจคือ การที่ข้อมูลทั้งหมดในระบบจะถูกเข้ารหัสและเก็บไว้ในทุกๆ โหนดในระบบ ซึ่งทำให้ข้อมูลไม่สามารถถูกแก้ไขหรือลบได้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ถือสิทธิ์ นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบข้อมูลแบบเป็นเวลาจากหลายๆ โหนดในระบบ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน Blockchain นั้นมีความถูกต้องและเป็นจริง
นอกจากธุรกรรมทางการเงินที่เรารู้จักอย่าง Bitcoin แล้ว Blockchain ยังสามารถประยุกต์ใช้ในอีกหลายด้านตัวอย่างเช่น
- ด้านการศึกษา สามารถช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพในการบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการศึกษาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการและตรวจสอบผลการเรียนรู้ของนักเรียน โดยมีตัวอย่างด้านการศึกษาดังนี้
- บันทึกประวัติการเรียนรู้ของนักเรียน: การบันทึกประวัติการเรียนรู้ของนักเรียนบน Blockchain จะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียนรู้ของนักเรียนมีความถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสและเก็บไว้ในบล็อกของ Blockchain ที่ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- แชร์ข้อมูลการเรียนรู้: การแชร์ข้อมูลการเรียนรู้ผ่าน Blockchain จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบตัวตนของผู้เข้าถึงข้อมูลก่อนที่จะมอบสิทธิ์ให้กับผู้ใช้งานอื่นๆ ในระบบ
- ด้านการแพทย์ สามารถช่วยเพิ่มความถูกต้องและความน่าเชื่อถือในการบันทึกและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดการและแชร์ข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลและคลินิกที่ต่างกัน โดยมีตัวอย่างด้านการแพทย์ดังนี้
- บันทึกประวัติสุขภาพของผู้ป่วย: การบันทึกประวัติสุขภาพของผู้ป่วยบน Blockchain จะช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาและการวินิจฉัยของผู้ป่วยมีความถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสและเก็บไว้ในบล็อกของ Blockchain ที่ไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- แชร์ข้อมูลการรักษา: การแชร์ข้อมูลการรักษาผ่าน Blockchain จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบตัวตนของผู้เข้าถึงข้อมูลก่อนที่จะมอบสิทธิ์ให้กับผู้ใช้งานอื่นๆ ในระบบ
- ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้กับด้านสิ่งแวดล้อมได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในการจัดการกับปัญหาด้านความรังเกียจในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อมดังนี้
- การจัดการกับการเก็บรักษาขยะ: Blockchain สามารถช่วยลดปัญหาการสะสมขยะและความไม่สะดวกในการเก็บรักษาขยะได้ โดยการใช้ ในการติดตามการจัดการขยะจะช่วยลดความผิดพลาดในการเก็บรักษาขยะและสามารถสร้างระบบที่มีความโปร่งใสและถูกต้องขึ้น
- การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ: การใช้ Blockchain เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเช่นป่าไม้ หรือทะเล จะช่วยป้องกันการถูกสกปรกหรือผิดใช้ในการขุดทองคำหรือการตัดไม้ในท่ามกลางป่าไม้
- การติดตามและตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบ: Blockchain สามารถช่วยติดตามและตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบในการผลิตเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือในการจัดซื้อและจัดหาวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเช่น สิ่งทอ อาหาร และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ