AI สร้างสรรค์ 2566 ปีแห่งการพัฒนาก้าวกระโดด
นับถอยหลังอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จะก้าวไปสู่ปี 2567 ปีแห่งความหวังใหม่ โอกาสใหม่ ความสำเร็จที่จะเกิดอนาคตรอคอยอยู่ เมื่อมองย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี 2566 ในแวดวงเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปมากและเห็นได้ชัดเจนว่ามีการพัฒนาอย่างล้ำลึกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น
แนวโน้มในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นเทรนด์ของเทคโนโลยีที่หลากหลาน อาทิ ความยั่งยืน (Sustainability) การนำเทคโนโลยีเพื่อลดการใช้พลังงานและทรัพยากรที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อม, การสร้างโลกเมตาเวิร์ส (Metaverse) โลกเสมือนจริงที่เชื่อมต่อกับโลกแห่งความจริง, ระบบภูมิคุ้มกันดิจิทัล (Digital Immune System) เป็นกระแสที่มุ่งเน้นการปรับปรุงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของระบบ IT โดยการผสมผสานกลยุทธ์วิศวกรรมซอฟต์แวร์หลายๆอย่าง เป็นต้น
แต่สิ่งที่ใกล้ตัวมนุษย์เรามากที่สุดและถูกใช้ในชีวิตประจำวันจนบางคนได้มีการปฏิสัมพันธ์โดยไม่รู้ตัว ก็คือ “ปัญญาประยุกต์” หรือ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งเป็นระบบหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความสามารถในการทำงานต่างๆ ด้วยสติปัญญาเสมือนมนุษย์ หรือในบางกรณีอาจมีความสามารถเหนือมนุษย์ ถูกนำมาใช้งานหลากหลายด้าน เช่น การศึกษา การแพทย์ การธุรกิจ และการบันเทิง เป็นต้น
ตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา “Generative AI” หรือ “AI สร้างสรรค์” เป็นกระแสที่แรงมากๆ ผู้คนทั่วโลกได้นำปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างคอนเทนต์หรือเนื้อหาใหม่จากข้อมูลที่อยู่ ด้วยการใช้เทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Learning) ผ่านอัลกอริทึมแบบ Generative Model จากชุดคำสั่ง (promt)
ประเภทของเนื้อหาของ AI สร้างสรรค์
- Text Generation (ข้อความ) : เป็นการสร้างข้อความใหม่จากข้อมูลหรือคำสั่งที่ให้มา เช่น การสร้างบทความ บทกวี หรือบทสนทนา ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างข้อความได้คือ GPT-4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่สามารถสร้างข้อความได้หลากหลายรูปแบบ GPT มีระบบประมวลผลที่เรียก ว่า Large Language Model (LLM) สามารถสร้างรูปแบบสนทนา และ ข้อมูลได้คล้ายกับการสรรค์สร้างภาษาของมนุษย์โดย LLM ผ่านการฝึกฝน และ การวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวกับข้อความเป็นจำนวนมาก และสามารถเรียนรู้การประมวลผล และ เชื่อมคำต่อคำได้คล้ายกับที่มนุษย์อย่างเราประเมิน
- Code Generation (โค้ด) : เป็นการสร้างโค้ดใหม่จากคำอธิบายหรือคำสั่งที่ให้มา เช่น การสร้างโปรแกรม แอป หรือเว็บไซต์ ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างโค้ดได้คือ Codex AI ที่สามารถสร้างโค้ดได้หลายภาษา จาก Open AI หรือ GitHub Copilot ซึ่งเป็นเขียนโปรแกรมกึ่งอัตโนมัติที่สามารถช่วยเขียนโค้ดได้
- Image Generation (รูปภาพ) : เป็นการสร้างรูปภาพใหม่จากข้อมูลหรือคำอธิบายที่ให้มา เช่น การสร้างภาพวาด ภาพถ่าย หรือภาพประกอบ ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างรูปภาพได้คือ DALL-E สามารถสร้างรูปภาพจากคำอธิบายได้ หรือ This Person Does Not Exit ที่สามารถสร้างรูปภาพของคนที่ไม่มีอยู่จริงได้ รวมไปถึง Generated Photos เป็นภาพที่มาจากไอเดียเดียวกันที่สร้างขึ้นมาพร้อมใช้งานได้ดาวน์โหลดใช้งานได้ฟรีไม่ติดลิขสิทธิ์
- Speech Generation (เสียง) : เป็นการสร้างเสียงใหม่จากข้อมูลหรือคำสั่งที่ให้มา เช่น การสร้างเสียงพูด การแปลงเสียง หรือการสร้างเสียงดนตรี ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างเสียงได้อาทิ Lyrebird AI ที่สามารถสร้างเสียงพูดที่เหมือนคนจริงได้ และถูกยกให้เป็นการจำลองเสียงมนุษย์แม่นยำ เป็นแพลตฟอร์มสร้างเสียง AI ที่ให้เสียงสังเคราะห์ที่สมจริงและปรับแต่งได้ ใช้อัลกอริธึมที่รู้ลึกในการวิเคราะห์และเลียนแบบรูปแบบการพูดของมนุษย์ ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงสำหรับแอปพลิเคชันต่างๆ หรือ Jukebox AI ที่สามารถแต่งเพลงใหม่พร้อมเนื้อร้องได้
- Video & 3D Generation (วิดีโอและ 3D) : เป็นการสร้างวิดีโอหรือภาพ 3D ใหม่จากข้อมูลหรือคำอธิบายที่ให้มา เช่น การสร้างฉาก การสร้างตัวละคร หรือการสร้างภาพเคลื่อนไหว ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างวิดีโอหรือ 3D ได้คือ GauGAN AI จาก NVIDIA ที่สามารถสร้างภาพ 3D จากภาพวาดได้ หรือ AI Deepfake ที่สามารถสร้างวิดีโอที่เปลี่ยนใบหน้าของคนได้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา AI สร้างสรรค์เห็นตรงกันว่าอาจจะเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ในอนาคตได้ ทุกค่ายจึงเร่งพัฒนากันอย่างสุดตัว อย่าง กูเกิล เปิดตัว Gemini ในระบบ LLM รองรับข้อมูลทั้ง ข้อความปกติ, โค้ด, เสียง, ภาพ, และวิดีโอ สำหรับการใช้หลากหลายรูปแบบ โดย Pixel 8 สมาร์ทโฟนของกูเกิลจะเป็นแบรนด์แรกที่ถูกนำมาใช้ โดยทางกูเกิลได้เปิดเผยบนชุดทดสอบต่างๆ ว่ามีคะแนนชนะ GPT4 ของ Open AI เกือบทุกการทดสอบ
ทางด้านแอปเปิลหลังเปิดตัว AI ร่วมกับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ที่ใช้ระบบ LLM เป็นโอเพนซอร์ซด้วยความมุ่งมั่นการสร้างงานวิจัยยังไม่ใช่เป็นการพาณิชย์ ซึ่งคาดหมายกันในอนาคตเร็วๆนี้ว่าจะช่วยให้ระบบ AI ที่มีความซับซ้อนทำงานบ iPhone หรือ iPad ได้
ระวังเนื้อหาไม่ถูกต้อง–การละเมิดลิขสิทธิ์
แม้ว่าผู้คนจะมีความตื่นเต้นกับความสามารถของ AI ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตในอนาคตแต่ต้องพึงระวังถึงการสร้างเนื้อหาที่อาจจะไม่ถูกต้องได้ บางครั้งหรือหลายๆ ครั้ง AI ไม่ได้เข้าใจความหมายของข้อความที่สร้างขึ้น แต่เพียงแค่เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่ โดยใช้แบบจำลองปัญญาประดิษฐ์ที่เรียนรู้จากข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือเสียง ที่มนุษย์สร้างขึ้น แบบจำลอง AI ไม่ได้มีความรู้หรือความเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่สร้างขึ้น แต่เพียงแค่เลียนแบบรูปแบบ สไตล์ หรือความสัมพันธ์ของข้อมูลที่มีอยู่
ดังนั้น AI อาจสร้างเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องได้ ถ้าข้อมูลที่ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้มีปัญหา จากข่าวปลอม ข้อมูลที่มีความลำเอียงไม่เป็นกลาง อาจจะผลกระทบต่อผู้ใช้เช่นอาจจะเป็นเครื่องมือสำหรับการหลอกลวง การกระทำผิด หรือการกระทำอันตราย เช่น การสร้างข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอปลอมที่เหมือนจริง
และแน่นอนว่าสำหรับงานสร้างสรรค์ของเจ้าของลิขสิทธิ์หรือศิลปินในแขนงต่างๆ จะถูกผลกระทบ AI สร้างสรรค์เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ โดยอาศัยข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีอยู่เป็นแหล่งเรียนรู้ เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือเสียง ที่ส่วนใหญ่เป็นผลงานของศิลปินมนุษย์ ซึ่งอาจมีการคุ้มครองลิขสิทธิ์
แต่ AI ไม่ได้มีความรับผิดชอบหรือความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ์และผลประโยชน์ของผู้สร้างสรรค์ ดังนั้น AI อาจสร้างเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของศิลปินได้ ถ้าไม่ได้ขออนุญาตหรือชำระค่าใช้จ่าย หรือไม่ได้ระบุต้นทางของผลงานต้นฉบับ
ซึ่งเจ้าของผลงานและศิลปินจะต้องตื่นตัว ควรรับรู้และปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย และมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน AI สร้างสรรค์ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์ เพื่อการปกป้องผลงานตนเองด้วยการจดแจ้งลิขสิทธิ์ การใช้ลายน้ำ หรือการใช้เทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อระบุตัวตน และการตรวจสอบว่าผลงานของตนไม่ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่ผู้ใช้ AI สร้างเนื้อหาควรมีความระมัดระวัง ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส เมื่อใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างเนื้อหาควรตรวจสอบความถูกต้อง ความเหมาะสม และความเป็นความจริงของเนื้อหาที่สร้างขึ้น
Generative AI หรือ AI สร้างสรรค์จนถึงขณะนี้ยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังอยู่ในระยะการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ความชาญฉลาดและประสิทธิภาพจะถูกพัฒนาไปจนถึงขั้นสูง ในที่สุดทุกคนจะเข้าถึงได้ด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวช่วยให้มนุษย์ยกระดับการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่ากว่าเดิม.