AI Agent แตกต่างจาก Agentic AI อย่างไร
AI Agent คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือระบบ AI ที่สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมผ่านเซนเซอร์ต่างๆ และดำเนินการตอบสนองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้โดยมีลักษณะสำคัญคือ:
- มีความสามารถในการรับรู้สภาพแวดล้อม (Perception)
- สามารถตัดสินใจเลือกการกระทำ (Decision Making)
- ดำเนินการตามการตัดสินใจนั้น (Action)
- มีเป้าหมายที่ชัดเจน (Goal-oriented)
ตัวอย่างของ AI Agent เช่น ระบบแชทบอทที่ตอบคำถามลูกค้า, การสร้างบทความอัตโนมัติจาก Keyword, โปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติที่ตัดสินใจซื้อขายตามเงื่อนไขที่กำหนด และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติที่สามารถหลบสิ่งกีดขวางและทำความสะอาดพื้นที่ เป็นต้น
ส่วน Agentic AI เป็นแนวคิดที่ก้าวหน้ากว่า โดยหมายถึง AI ที่มีความเป็นอิสระ (Autonomy) และความสามารถในการกระทำการ (Agency) ในระดับที่สูงขึ้น โดยมีคุณลักษณะเพิ่มเติมดังนี้:
- มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัว (Learning & Adaptation)
- สามารถตั้งเป้าหมายด้วยตัวเอง (Self-goal Setting)
- มีความเข้าใจในบริบทที่ซับซ้อน (Contextual Understanding)
- สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ได้อย่างยืดหยุ่น (Flexible Collaboration)
ความแตกต่างหลักระหว่าง AI Agent และ Agentic AI มีดังนี้:
- ระดับความเป็นอิสระ:
- AI Agent: ทำงานภายใต้กรอบและเป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน
- Agentic AI: มีความเป็นอิสระสูงกว่า สามารถกำหนดเป้าหมายและวิธีการทำงานได้ด้วยตัวเอง
- 2. ความสามารถในการเรียนรู้:
- AI Agent: มักมีการเรียนรู้แบบจำกัดหรือตายตัว
- Agentic AI: สามารถเรียนรู้และปรับตัวได้อย่างต่อเนื่อง
- 3. ความซับซ้อนของการตัดสินใจ:
- AI Agent: ตัดสินใจตามกฎและเงื่อนไขที่ถูกเขียนไว้
- Agentic AI: สามารถตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและไม่คุ้นเคยได้
- 4. การทำงานร่วมกับระบบอื่น:
- AI Agent: มักทำงานแบบเดี่ยวหรือมีการประสานงานแบบจำกัด
- Agentic AI: สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ
ในปัจจุบัน AI ส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับของ AI Agent มากกว่า Agentic AI เนื่องจาก Agentic AI ต้องการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความเข้าใจเกี่ยวกับ AI ที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI กำลังมุ่งไปสู่การสร้าง Agentic AI ที่มีความสามารถสูงขึ้นเรื่อยๆ
#NOVELBIZ #AI #DigitalNomad www.novelbiz.co.th
Cr:
https://medium.com/…/ai-agents-vs-agentic-ai-whats-the…